ข่าวการเงิน - การลงทุน

17 June 2008

มุมมองหุ้นไทยสไตล์ Richerstock 17-06-08

หุ้นปรับฐานแรง แนะซื้อที่ 780 เน้นหุ้นต้านเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์ ผู้บริหารกองทุนรวม ประเมินหุ้นไทยเสี่ยงสูงจากสภาพคล่องหดหายเพราะแรงขายต่างชาติที่วิตกปัญหาการเมือง เงินเฟ้อพุ่ง และตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
คาด..ดัชนีหุ้นไทยกำลังเข้าสู่เขตแดน "อันตราย" และเป็นการปรับฐานครั้งใหญ่ แนะปรับกลยุทธ์ เข้าซื้อเมื่อดัชนี "ต่ำกว่า" 780 เน้นลงทุนในหุ้นที่ผ่านวิกฤติเงินเฟ้อมาหลายรอบ และผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) "สูง"
--
ภาพการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยที่กำลัง "ไหลลง" ในช่วงนี้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับช่วงปี 2549 เป็นอย่างมาก โดยตลาดหุ้นไทยถูกปกคลุมด้วยปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน
ปัญหาการเมืองที่กลุ่มพันธมิตรประท้วงขับไล่รัฐบาล อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งจากเดือนมกราคมที่ 4.3% เป็น 7.6%ในเดือนพฤษภาคม 2551 ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจากที่เคยเกินดุล 920 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม เป็น "ขาดดุล" 1.7 พันล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2551
ในมุมมองของผู้บริหารกองทุนรวม "ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์" ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุน บลจ.อยุธยา ประเมินแนวโน้มหุ้นไทยว่า ปัจจัยลบทางด้านการเมือง อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ทำให้มุมมองการลงทุนต่อตลาดหุ้นมีความเสี่ยง ตั้งแต่ต้นปีบริษัทจึงได้ปรับพอร์ตลงทุนในกองทุนยืดหยุ่นและกองทุนส่วนบุคคล และหันมาถือเงินสดมากขึ้น
โดยในช่วงที่ผ่านมา กองทุนได้ขายหุ้นในกลุ่มแบงก์และพลังงานออกไป เนื่องจากราคาได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว และเพิ่มน้ำหนักหรือซื้อหุ้นค้าปลีกมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อมากนัก

-------------------------------------
ทั่วโลกผวาเงินเฟ้อคุกคาม "เอดีบี" ชี้เอเชีย เผชิญความเสี่ยงสูงสุด

สำนักข่าวต่างประเทศ ชี้ธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลก กำลังอยู่ในภาวะหวาดผวากับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในอัตราเร่ง มอร์แกนฯ เชื่อวิกฤตเงินเฟ้อยังพุ่งกระฉูดไปอีกหลายปี ส่งผลกระทบให้มูลค่าสินทรัพย์ทุกรูปแบบ ลดลงต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่ "เอดีบี" ชี้ภาวะเศรษฐกิจเอเชีย กำลังเผลิญความเสี่ยงสูง และถูกเงินเฟ้อคุกคามรุนแรงขึ้น

หลายประเทศจะเผชิญภาวะลำบากมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายการเงินซึ่งก็คือวิธีการที่จะผสมผสานอย่างเหมาะสมเพื่อที่จะควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นโดยไม่ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวมากเกินไป" ทั้งนี้ หากประเทศในเอเชียมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อส่วนต่างที่เพิ่มมากขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐก็อาจจะดึงดูดเม็ดเงินที่มีความผันผวนและกระตุ้นให้เกิดภาวะเงินเฟ้อด้านราคาสินทรัพย์ โดยมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดภาวะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง

-------------------------------------
การเมืองถล่มหุ้น ลดเป้าดัชนีสินปี927จุด

ทั้งนี้ สมาคมนักวิเคราะห์ฯ ได้ลดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 51 มาแล้ว 1 ครั้งเมื่อเดือนม.ค. โดยเป็นการปรับลดลงเหลือ 958 จุด จากเดิมที่คาด 1,030 จุด หลังกังวลเรื่องผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยของสหรัฐ ปัญหาซับไพร์ม และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
ดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี ลดลง 8.6% มาที่ 784.72 จุด และต่างชาติขายสุทธิ 3.37 หมื่นล้านบาท
ผลสำรวจสำนักวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์ไทยและบริษัทต่างชาติรวม 21 แห่ง ครั้งที่ 3/2551 เมื่อ 12 มิ.ย.51 นักวิเคราะห์ได้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด มองตรงกันว่าปัจจัยการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับประเด็นทางการเมืองที่ส่งผลกระทบมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มที่คัดค้านรัฐบาล ซึ่งกังวลว่าจะยืดเยื้อและนำไปสู่ความรุนแรง 67% ,การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 52% และประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล 24%
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ 52% มองว่าทิศทางสถานการณ์การเมืองในระยะ 6 เดือนข้างหน้าจะแย่ลง ขณะที่ 33% คาดว่าจะดีขึ้น และอีก 14% ประเมินว่าไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับปัจจัยที่นักวิเคราะห์ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในครึ่งหลังปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวก ได้แก่ การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ,แนวโน้มรายได้ และกำลังซื้อของภาคเกษตรกรที่เพิ่มขึ้น จากการที่ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในระดับสูง,เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าในระยะยาว และผลประกอบการบจ.ที่ขยายตัวดี

----------------------------------------------
ลุ้น!!... ซาอุ เพิ่มกำลังการผลิต 200,000 บาร์เรล ต่อวัน

จากการเขาพบกษัติย์ขังประเทศ ซาอุ เพื่อปรึกษาเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งสูงตลอดตั้งแต่ต้นปี เสนอทางแก้ไขโดยเรียกร้องให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 200,000 บาร์เรล ต่อวัน โดยจะมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมในวันที่ 22/06/2008

----------------------------------------------
ช่วงนี้การเมืองยังคงรุนแรงไม่คลีคลายแม้ ฝ่ายพันธมิตรจะเริ่มหมดมุขหันมาใช้ กลยุทธดาวกระจายโดยล่าสุดได้ไปให้กำลังใจคณะ กกต 3 คน โห่ขับไล่ 2 คน โดยภาพรวมยังไม่มีความน่าวิตกแต่อย่างใด เรื่องที่มาใหม่คือ การเสนออภิปลายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลของพรรคฝ่ายค้าน พลังจากร่วมเสนออภิปลายทั่วไปแต่นายกสมัครปฏิเสธกัลมาในวันนี้ โดย ปชป.จะยื่นเรื่องวันอังคารที่ 17/06/08 แม้จากที่วิเคราะห์แล้วคาดว่าพรรคฝ่ายค้านต้องการเพียงเผยแพร่ข้อมูลการทำงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลเท่านั้น ไม่น่าจะสามารถหักขาเก้าอี้ของรัฐมนตรีคนใดได้เลย แต่อาจทำให้การเมืองร้อนแรงขึ้นอีกระดับ

ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมีนัย เนื่องจากราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้มีการขายทำกำไรจากนักลงทุนส่วนหนึ่ง และอีกส่วนคือการเพิ่มกำลังการผลิตของ ซาอุ ไป 300,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และน่าจะยังลดลงต่อไปอีกหาก วันที่ 22/06/2008 ในที่ประชุม ซาอุ ได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 200,00 บาร์เรลต่อวัน แต่เมื่อวิเคราะห์ในระยะกลางและยาวแล้ว ราคาก็ยังไม่น่าจะลงไปแตะ 120 ดอร์ลล่าต่อบาร์เรล ได้ในปีนี้แน่ๆ

ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง แต่ไม่หวือหวาเท่าไร ซึ่งผมมองว่าเป็นการดีที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง และเงินดอร์ลล่าแข็งค่าขึ้น(ดีต่อธุรกิจส่งออก) แบบเรื่อยๆแต่มั่นคง แต่ก็ไม่ควรอ่อนค่ามากเกินไป อยู่ในระดับ 32-33 บาทก็พอครับ

ข่าวเงินเฟ้อ ยังคงรบกวนจิตใจผมเป็นอย่างมาก และมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้อยู่ที่ 7.6% แล้วหากรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ในไตรมาตร 3 และอัตราเงินเฟ้อขึ้นไปแตะเลข 2 หลักเมื่อไร นี้ผมว่านักลงทุนต่างประเทศขนเงินกลับประเทศแน่ๆ หรือไม่ก็ย้ายกลุ่มหุ้นไปอยู่พวก หุ้นค้าปลีก

ซึ่งตอนนี้ผมเริ่มมีความคิดที่จะ ลองหาหุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีก มาไว้ใน Watch List ซักตัวสองตัว และลองติดตามข้อมูลเพื่อกระจายความเสี่ยงครับ