ข่าวการเงิน - การลงทุน

08 June 2008

มุมมองหุ้นไทยสไตล์ Richerstock 08-06-08

ดาวโจนส์ร่วง400จุดหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกทำนิวไฮ






ดาวโจนส์ร่วงหนักเกือบ 400 จุด หรือลดลงกว่า 3% หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งกระฉูดแตะ 139 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำสถิติสูงสุดรอบใหม่

เป็นการปรับตัวลดลงหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 139 ดอลลาร์/บาร์เรล วันเดียวราคาพุ่งขึ้นเกือบ 11 ดอลลาร์
ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าแนวโน้มในเดือนก.ค.มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวแตะที่ระดับ 150 ดอลลาร์/บาร์เรล














----------------------------------

บาทอ่อนค่าสุดรอบ3เดือน เลี้ยบสั่งธปท.ปล่อยค่าเงิน



ค่าบาทอ่อนต่อเนื่องแตะ 32.91 อ่อนสุดในรอบ 3 เดือน คาดวันนี้หลุด 33 นักค้าเงินชี้ปัจจัยหลักเป็นการรีบาวน์ของดอลลาร์และการเมืองที่ยังไม่นิ่ง รมว.คลังระบุเป็นไปตามภูมิภาค ไม่เข้าแทรกแซงทั้งเงินบาท-ทิศทางดอกเบี้ย ด้าน"ธาริษา" ยันการดูแลเงินบาทยึดแนวทางให้เป็นไปตามกลไกตลาดอยู่แล้ว



ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทเป็นการอ่อนค่าตามภูมิภาคที่สวนทางกับดอลลาร์สหรัฐที่รีบาวน์ รวมถึงการที่นักลงทุนต่างชาติที่เทขายหุ้นและนำเงินทุนออกไปต่างประเทศแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนแนวโน้มการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ในกรอบ 32.85-33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินบาท นอกจากความไม่มั่นคงทางการเมืองแล้ว ยังมีปัจจัยที่ดอลลาร์สหรัฐเริ่มรีบาวน์ หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาพูดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มดีขึ้น


------------------------------------

ธปท.เตือนธุรกิจรับภาวะดบ.ขาขึ้น



ธปท.ร่วม 4 หน่วยงานภาคเอกชน ถกสถานการณ์-ปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ เผยภาคเอกชนระบุห่วงเงินเฟ้อพุ่ง ด้านธปท.แนะให้ภาคเอกชนปรับตัวรับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นอาจกดดันให้ต้นทุนการผลิตสูง และเร่งการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป



=========================

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ที่ 8/06/2008 ผมได้ลองสรุปประเด็นที่ควรติดตามข่าวสารเปี่ยวกับหุ้นได้ดังนี้

1. ศึกษาธุรกิจของหุ้นที่เราสนใจ และเรียบเรียงข้อมูลปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจ ,ปัจจัยส่งเสริมของธุรกิจ

2. วิเคาระห์ข่าวเด็น ข่าวดัง จากภาวะเศรฐกิจปัจจุบัน ว่า กระทบกับธุรกิจของหุ้นที่เราสนใจด้านใด เป็นการเพิ่มความเสี่ยง ลดความสี่ยง หรือส่งเสริมตัวธุรกิจ อย่างไร

3. จากสถานการณ์ภาวะเศรฐกิจนี้เป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจอื่นๆ(หุ้นตัวอื่น) หรือไม่ เพื่อเพิ่มหุ้นคุณภาพปัจจัยพื้นฐานดีๆไว้ในกลุ่มหุ้นที่จับตามอง



โดยจากข้อมูลข่าวด้านบน ผมได้ลองวิเคราะห์ดูได้ดังนี้ครับ.. (หุ้น demo ที่จับตามอง Hana,Pttar)

จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงเรื่อยๆมาตลอดสิ่งที่ผมค่อนข้างกลัวคือการที่ ธปท. จะเข้ามาแทรกแซงเนื่องจากเกรงเรื่องอัตราเงินเฟ้อ แต่ตอนนี้เราได้ทราบแน่ชัดแล้วว่าจะไม่มีการแทรกแซงใดๆเด็ดขาด และปล่อยไปเป็นตามกลไกตลาด ซึ่งเงื่อนไขที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง(ดอลล่าแข็งค่าขึ้น)ได้นั้นคือ ปริมาณการขายหุ้นออกของต่างชาติ ,ตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐฯ และอาจมีประเด็นอื่นๆอีกก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มต่อไป

ราคาน้ำมันทำ new high 139 ดอลล่าต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 10 กว่าภายในวันเดียว ซึ่งเกิดจากการประกาศกร้าวเรื่องอาวุธ นิวเคลียร์(จำชื่อประเทศไม่ได้) และการเก็งกำไรในน้ำมันยังคงอยู่ไปอีกนานจนอาจได้เห็น 150 ดอลล่าต่อบาร์เรลภายในเดือนกรกฏาคม

ส่วนสถานะการณ์การเมืองแน่นอนว่ายังไม่มีใครคาดการณ์ได้ของจาก 5+1 คือ 5 แกนนำพัธมิตร กับอีก 1 ผู้นำประเทศ เท่านั้น (ฮ่า) ซึ่งโดยรวมผมคิดว่าไม่น่าจะเกิดสถานการณ์รุนแรงไปมากกว่านี้ สักพักตลาดหุ้นก็จะชินชากับข่าวม็อบไปเอง



ดังนั้นการการวิเคราะห์ทั้งหมดนี้ได้ใจความสำคัญเกี่ยวกับหุ้น Hana และ Pttar มากมายทีเดียว โดยหุ้น Pttar เป็นธุรกิจโรงกลั้นส่วนหนึ่ง เมื่อแนวโน้มราคาน้ำมันเป็นไปลักษณะสูงขึ้นตลอด จึงจำเป็นต้องทำการลดพอตร์ลง(จากราคาขึ้นพอสมควรในวันศุกร์) ไปถือเงินสด และมุมมองในหุ้น Hana เริ่มค่อยๆดีขึ้นอย่างชัดเจนและมีนัย เพราะหากค่าเงินบาทอ่อนค่าไปต่ำกว่า 31-32 ได้จะลดการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนไปได้เยอะมาก ร่วมถึงหากเศรฐกิจของสหรัฐฯมีแนวโน้มฟื้นตัวได้จริงจะทำให้ยอดสั่งซื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งทันรอบ Q3 ..... สรุป ลดพอตร์ Pttar จับตาตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐฯ และเสถียรภาพของค่าเงินบาทเพื่อหาจังหวะซื้อ Hana